เมื่อวันที่ 13 ม.ค. พ.ต.ท.ศุภกร เลาหทวีโชค สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิต ภายในห้องพักอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในซอยลาดพร้าววังหิน 7แยก 5 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมฝ่ายสืบสวน แพทย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พบว่าห้องที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นที่ 3 ภายในพบศพ นายพารวย หรือไอซ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี สวมเสื้อวอร์มแขนยาวแบบมีฮู้ดสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขายาว สภาพศพกึ่งนั่งกึ่งนอน ถัดมาบริเวณปลายเท้าพบศพ น.ส.ปรีดาภรณ์ หรือกุ้ง (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี สวมเสื้อยืดลายทางขวางสีเทาเลือดหมู กางเกงยีนขาสั้น นอนหงายเสียชีวิต
นอกจากนี้บริเวณโซฟา ภายในห้องยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย คือ น.ส.สุวรรณี หรือฝ้าย (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี นอนหงายหายใจรวยริน มีผ้าห่มสีแดงคลุมกายอยู่ กับชายไม่ทราบชื่ออีก 1 คน จึงรีบนำปฐมพยาบาล ก่อนนำตัวส่ง รพ. จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนโรค เนื่องจากเป็นช่วงระบาดของโควิด-19 และสวมชุดพีพีอี ก่อนดำเนินการตรวจสภาพศพ จากการตรวจสอบไม่พบว่า มีร่องรอยการต่อสู้ภายในจุดเกิดเหตุ และไม่พบยาเสพติด มีเพียงหลอดกาแฟใช้สำหรับสูดดม ขวดเบียร์ และน้ำอัดลมตั้งวางอยู่
จากการสอบสวน นางลาวรรณ อานุภาพ อายุ 54 ปี เจ้าของบ้านเช่าที่เกิดเหตุให้การว่า นายพารวย กับ น.ส.สุวรรณี เป็นสามีภรรยากัน มีลูกด้วยกัน 3 คน ทั้งคู่มีอาชีพค้าขาย มาเช่าห้องเมื่อเดือน เม.ย.ปี 63 แต่ไม่ทราบว่า มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการเสพยาเสพติดแต่อย่างใด พอทราบเรื่องก็รู้สึกเสียใจที่มาเสียชีวิตจากการเสพยาแบบนี้ ส่วนศพผู้ตายอีกคนหนึ่งที่อยู่ปลายเท้านายพารวยนั้น ตนไม่รู้จักแต่อย่างใด
ต่อมา นางวชิราภรณ์ สิงหะ อายุ 52 ปี มารดาของ นายพารวย เดินทางมาที่เกิดเหตุ กล่าวว่าไม่เคยทราบมาก่อนว่าลูกชายจะเสพยาเสพติด พอรู้ข่าวจากตำรวจก็รีบมายังจุดเกิดเหตุ ก่อนหน้านี้ลูกชายทำอาชีพขายขนมครกอยู่ที่ตลาดอินดี้ พอถึงช่วงระบาดโรคโควิด-19 จึงทำให้หยุดขายไป ขณะที่ฝ้ายภรรยาของลูกชายขายขนมกุยช่ายอยู่ที่ตลาดอินดี้เช่นกัน รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าลูกชายจะจากไปเช่นนี้
ด้านเพื่อนของ น.ส.ปรีดาภรณ์ กล่าวว่า ตนทำอาชีพเป็นเด็กเอ็นเตอร์เทนเหมือนกับ น.ส.ปรีดาภรณ์ ผู้เสียชีวิต ก่อนหน้านี้ทราบว่า เพื่อนไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ตนคอยห้ามปรามมาตลอด จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุทราบว่า มีคนนำ "เคนมผง" มาให้เพื่อนทดลองเสพ จนเกิดเหตุการณ์ช็อกยาเสพติดขึ้น รู้สึกเสียใจที่ต้องเสียเพื่อนรักไป เพราะพักอาศัยอยู่ด้วยกัน และทำงานมาด้วยกันตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า มีผู้เสียชีวิตจากการเสพยาเคนมผงที่ห้องดังกล่าว โดยในระหว่างก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึงนั้น ผู้แจ้งเหตุได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งมีท่าทีลุกลี้ลุกลนออกจากห้องไปคาดว่า ผู้หญิงคนดังกล่าว จะนำหลักฐานเกี่ยวกับยาเสพติด และเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของทั้งสองไปด้วย ส่วนศพผู้เสียชีวิตมอบให้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่ง สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ผ่าพิสูจน์เพื่อหาสารเสพติดและสาเหตุการตายต่อไป
ต่อมา พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า จากการตรวจค้นภายในห้องพักยังไม่พบยาเสพติด พบเพียงอุปกรณ์ที่ใช้ในการสูดดมเข้าจมูก (หลอดกาแฟ) จึงส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บไปตรวจสอบอย่างละเอียด ระหว่างที่เจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุ พบว่ามีผู้หญิง 1 คนวิ่งสวนเจ้าหน้าที่ออกมา หลังคุมตัวได้สอบถามทราบว่า เป็นคนที่โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและอยู่ภายในห้องดังกล่าวด้วย เบื้องต้นให้การว่าในกลุ่มมีทั้งหมด 5 คน ชาย 2 หญิง 3 มามั่วสุมกินดื่มกันตั้งแต่คืนก่อน แต่ยังไม่ให้การยอมรับว่า มีการเสพยาเสพติดชนิดใดร่วมด้วยหรือไม่.