สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ว่ากระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เรื่องการเพิ่มชื่อบริษัทและสถาบันของจีนรวม 33 แห่ง เข้าสู่บัญชีดำการเป็นหน่วยงานที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อกลุ่มชาติพันธุ์ในจีน โดยเฉพาะชาวอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ 9 แห่ง และอีก 24 แห่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับ "การผลิตอาวุธทำลายล้าง" และกิจกรรมทางทหาร ที่ทำให้สหรัฐเกิดความกังวลด้านความมั่นคงภายใน
ทั้งนี้ บริษัทที่อยู่ในบัญชีดำมีทั้งหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน หนึ่งในนั้นคือ "เน็ตโปซา" ( NetPosa ) ผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งรัฐบาลวอชิงตันกล่าวหาว่าเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีจดจำใบหน้าให้ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลปักกิ่งใช้ "สังเกตพฤติกรรม" ของชาวอุยกูร์อย่างจำเพาเจาะจง และเน็ตโปซามีแผนส่งออกเทคโนโลยีของตัวเองไปยังสหรัฐด้วย
นอกจากนี้ยังมี "ฉีหู่ 360" ( Qihoo 360 ) หนึ่งในบริษัทด้านความมั่นคงทางไซเบอร์รายใหญ่ และ "คลาวด์ไมด์ส" ( CloudMinds ) บริษัทให้บริการคลาวด์รองรับการทำงานของหุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ อาทิ "เป็ปเปอร์" โดยบริษัทแห่งนี้ได้รับความสนับสนุนด้านการเงินจากซอฟต์แบงก์ กลุ่มบริษัทโฮลดิ้งของญี่ปุ่นด้วย
ขณะที่บริษัทและหน่วยงานทุกแห่งที่ปรากฏชื่ออยู่บนบัญชีดำดังกล่าวของรัฐบาลวอชิงตันยังไม่แสดงท่าทีอย่างเป็นทางการ อนึ่ง ความเคลื่อนไหวของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐในครั้งนี้เกิดขึ้นราว 1 สัปดาห์ หลังการประกาศยกระดับมาตรการป้องกันการค้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วยการให้ผู้ประกอบการรายใดก็ตามของสหรัฐ ที่ต้องการส่งออกวัตถุดิบสำหรับผลิตเซมิคอนดักเตอร์ และการแบ่งปันเทคโนโลยีการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ให้กับบริษัทหัวเว่ยของจีน ต้องได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน.
เครดิตภาพ : AP