เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีประชากรกว่า 69 ล้านคน ในจำนวนนี้ประกอบอาชีพเกษตรกรถึง 13 ล้านคนทั่วประเทศทาง ดีแทค จึงร่วมมือกับ ยารา ประเทศไทย เปิดตัว เกษตร โก( Kaset Go ) ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นบนมือถือ รองรับทั้งแอนดรอยด์และไอโอเอส เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้งาน เพื่อยกระดับอาชีพและคุณภาพชีวิต โดยถือเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยเชื่อมต่อเกษตรกร เข้ากับข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อถือได้และเรียลไทม์ ที่ตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร สามารถถามคำถามกับผู้เชี่ยวชาญและแบ่งปันความรู้กับเกษตรกรรายอื่น พร้อมมีข้อมูลสำคัญ เช่น ราคาพืชผลประจำวัน ข่าวเกษตร เคล็ดลับเกี่ยวกับพืชหลัก 8 ชนิด ของไทย ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดไร่ ผัก ทุเรียน มังคุด ลำไย ส้ม และมะม่วง รวมทั้งพืชอื่นๆ อีกกว่า 52 ชนิด โดยได้รับการสนับสนุนเนื้อหาโดยกรมส่งเสริมการเกษตร มูลนิธิร่วมด้วยช่วยกันสำนึกรักบ้านเกิด และ ยารา ประเทศไทย
“ที่ผ่านมาเกษตรกรไทยขาดเทคโนโลยีและความรู้ เข้าไม่ถึงข้อมูล พบปัญหาเพาะปลูก เช่น โรคระบาด ไม่รู้จะสอบถามหรือแก้ปัญหาอย่างไร ส่งผลให้ได้ผลผลิตต่ำ ซึ่งเนื้อหาในแอพ มีความเหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของเกษตรกรในภูมิภาคต่างๆ รวมถึงเนื้อหาเฉพาะทาง เช่น การให้คำแนะนำเรื่องมาตรฐานและใบรับรองทางการเกษตร การขนส่ง และการตลาด ที่สามารถเข้าไปใช้งานได้ง่ายๆ ผ่านแอพพลิเคชั่น”
ด้าน นายเมดิ เซนท์-อังเดร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยารา (ประเทศไทย) จำกัด และรองประธานกลุ่มธุรกิจประเทศไทย และประเทศเมียนมา ผู้นำผลิตภัณฑ์ธาตุอาหารพืชของโลก กล่าวว่า ตั้งแต่เราได้ให้บริการโซลูชั่นที่ยั่งยืนแก่เกษตรกรไทยมาตลอดเวลา 47 ปี และตั้งแต่ปี 60 ยารา ได้เร่งดำเนินกลยุทธ์ดิจิทัลฟาร์มมิ่ง (Digital Farming) เพื่อเป็นเครื่องมือในการทำการเกษตรที่แม่นยำแก่เกษตรกรทั่วโลก และการร่วมมือกันเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์ม เกษตร โก จะเชื่อมโยงเกษตรกรกับข้อมูลที่เชื่อถือได้ซึ่งตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญและชุมชนการเกษตร และคาดหวังว่าจะกลายเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยสำหรับเกษตรกรและเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศไทย
นายชารัด กล่าวอีกว่า ตั้งแต่เปิดตัวเดือน ส.ค. ที่ผ่านมามียอดดาวน์โหลดมากกว่า 150,000 ครั้งและมีเกษตรกรลงทะเบียนใช้งานแล้ว 100,000 คน คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1 ล้านคนในสิ้นปี 64 และวางแผนพัฒนาเพิ่มข้อมูลพืชอีก 44 รายการ และฟีเจอร์หลักที่สำคัญในการเพาะปลูก เช่น คำเตือนสภาพอากาศ การแจ้งเตือนโรค การเปรียบเทียบราคาตลาด นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายไปสู่บริการเสริมอื่น ๆ เช่น อุปกรณ์ฟาร์มเกษตร การเช่ารถไถ่ การประกันภัย และโปรแกรมทางการเงินด้วย.