ครั้งแรกของโลกในการนำผลงานศิลปะมาผสานเข้ากับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งเป็นนความร่วมมือของ 3 พันธมิตร
พิพิธภัณฑ์บ้านดำ อาณาจักรศิลปะบนพื้นที่กว่าร้อยไร่ลมหายใจของ ถวัลย์ ดัชนี ที่ จ.เชียงราย ร่วมกับ
Fulldome.pro สุดยอดผู้นำทางด้านเทคโนโลยีของโลก และ
ไอคอนสยาม แลนด์มาร์คระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา จัดงาน
“Immersive Art of Thawan Duchanee” มิติใหม่ของการแสดงผลงานศิลปะที่นำผลงานศิลป์ชิ้นมาสเตอร์พีซของ “ถวัลย์ ดัชนี” ศิลปินแห่งชาติผู้ได้รับฉายา “จักรพรรดิบนผืนผ้าใบ” ผู้รังสรรค์งานศิลปะร่วมสมัยจนเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ มาเล่าใหม่ในรูปแบบ Immersive Art ระหว่างนี้ถึงวันที่ 11 ม.ค. 2564 ณ ไอคอนสยาม ธารา ฮอลล์ ชั้นเอ็ม และ ไอคอนสยามพาร์ค ชั้น 2 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทางเฟซบุ๊คแฟนเพจ: Thawan Duchanee
ดร. ดอยธิเบศร์ ดัชนี, มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ และ มร.จอร์จี้ สวามิ
ในโอกาสนี้
มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายส่งเสริมการตลาดและองค์กรสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เผยว่า ไอคอนสยามแลนด์มาร์คระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีปณิธานเชิดชูเรื่องราวอันมีคุณค่าและเป็นความภาคภูมิใจจากทุกมิติของความเป็นไทยที่มีอยู่ในชาติ นำเสนอเรื่องราวความเป็นไทยที่มีคุณค่าให้แก่ประเทศ พร้อมคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดของไทยและสิ่งที่ดีที่สุดของโลก มารวบรวมไว้ ณ ที่แห่งเดียวกัน บนทัศนียภาพความงดงามของโค้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา และยังเป็นโครงการแรกและโครงการเดียวที่รวบรวมประติมากรรมชิ้นเอกเลอค่าทั้งของศิลปินแห่งชาติ และศิลปินระดับโลกกว่า 100 ชีวิต ภายใต้แนวคิด Global Collaboration หรือการร่วมมือกันสร้างสรรค์ระหว่างศิลปินไทยกับศิลปินระดับโลกอีกมากมาย
ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี ผู้อำนวยการ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ กล่าวว่า การกลับมาครั้งนี้นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการศิลปะ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่สนใจเทคโนโลยี ไลฟ์สไตล์ และศิลปะ ที่สำคัญมองว่างานศิลปะไม่จำเป็นต้องอยู่บนผืนผ้าใบเท่านั้น แต่งานศิลปะต้องรับใช้ทุกมิติในชีวิตได้ เชื่อว่าผู้ที่สนใจผลงานศิลปะหรือเคยได้ยินชื่อเสียงและความเป็นตำนานของ ถวัลย์ ดัชนี ห้ามพลาดมาชมงานนี้ เพราะนอกจากเป็นจุดก้าวกระโดดของวงการศิลปะไทย ยังเป็นการเผยแพร่ประเทศไทยให้คนทั่วโลกรู้จักผ่านผลงานของศิลปินชาวเอเชียคนแรกของโลกที่ได้ร่วมงานกับ Fulldome.pro ซึ่งเป็นผู้นำนวัตกรรมการจัดแสดงศิลปะรูปแบบดิจิทัลระดับโลกอีกด้วย โดยการจัดแสดงครั้งนี้เริ่มต้นในประเทศไทยเป็นที่แรก ก่อนนำไปจัดแสดงในระดับนานาชาติต่อไป
มร.จอร์จี้ สวามิ ประธานบริษัท ฟูลโดม โปร จำกัด สุดยอดผู้นำทางด้านเทคโนโลยีของโลก ที่สร้างผลงานไว้กว่า 500 โครงการทั่วโลก กล่าวว่า มีความภูมิใจในฐานะบริษัทด้านดิจิทัลโดมชั้นนำระดับโลก ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย และร่วมรังสรรค์นิทรรศการศิลปะมาแล้วทั่วโลก ทั้งยังมีผลงานร่วมงานกับศิลปินดิจิทัลระดับโลก รวมทั้งทำโปรเจ็คในประเทศไทยมาแล้วกว่า 20 โปรเจ็ค สำหรับการจัดงานครั้งนี้ยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมนำเสนอผลงานสุดมหัศจรรย์และโดดเด่นของ ถวัลย์ ดัชนี รูปแบบทันสมัยและทำให้ผลงานศิลปะของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่มีชีวิตขึ้นมา โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ผู้เข้าชม ทั้งนี้ผลงานที่นำมาจัดแสดงเป็นการนำผลงานของศิลปินเอเชียคนแรกมานำเสนอ เป็นการนำโลกตะวันออกมาพบกับโลกตะวันตก ผ่านผลงานศิลปะของที่มีความเป็นสากล ให้ชาวโลกได้รับรู้และประทับใจ
ภายในงานนำผลงานชิ้นมาสเตอร์พีซ 40 ชิ้น และความเป็นศิลปินระดับตำนานมา “เล่าใหม่” ผ่านเทคโนโลยีต่าง ๆ ทั้ง Immersive 360 fulldome, VR Technology, Augmented Reality (AR) Art Gallery, AR Mask, และ 3D Mapping แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ชั้นเอ็ม บริเวณธารา ฮอลล์ ชมผลงานระดับมาสเตอร์พีซกว่า 40 ภาพ ในรูปแบบ AR Art Gallery และชั้น 2 บริเวณไอคอนสยามพาร์ค ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงเต็มรูปแบบชุด “Lightning of the Soul” ในโดม Immersive 360 Fulldome นำผลงานศิลปะของ ถวัลย์ ดัชนี มานำเสนอในรูปแบบใหม่ผสมผสาน VR Technology ที่ราวกับมีชีวิต และสนุกสนานกับ Instagram VR Mask ที่นำผลงานศิลปะมาเชื่อมต่อกับผู้ชมเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ พร้อมมีสินค้าที่ระลึกคอลเลกชั่นพิเศษมาเอาใจนักสะสม
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่จะได้เพลิดเพลินและดื่มด่ำกับอาหารระดับโลก จากฝีมือเชฟชั้นนำจาก 4 โรงแรมสุดหรู ได้แก่ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพ, โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพ, โรงแรมสุโขทัย กรุงเทพ และโรงแรมเพนนินซูล่า กรุงเทพ ได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลป์ชิ้นเอกของ ถวัลย์ ดัชนี นำมาสร้างสรรค์เป็น Art Exclusive Dining Show พร้อมใจกันรังสรรค์อาหารแต่ละจานให้เป็นงานศิลปะในรูปแบบใหม่ ตื่นตาตื่นใจทุกเมนู โดยเชฟแต่ละท่านหมุนเวียนมารังสรรค์ดินเนอร์มื้อพิเศษสไตล์ไฟน์ ไดน์นิ่ง ในราคา 6,900 บาทต่อท่าน ทุกวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 19 ธ.ค. 2563 ถึงเสาร์ที่ 9 ม.ค. 2564.